


ไวอากร้า ไม่ใช่ยาเสียสาว แต่จะเที่ยวกลางคืนยังไงให้ปลอดภัย

ดูแลอวัยวะเพศชายให้สะอาด และกระตุ้นด้วย ไวอากร้า ก่อนมีเซ็ก

หากกิน ไวอาก้า ยาจะออกฤทธิ์ได้นานแค่ไหน

เซ็ก ไวอาก้า และอารมณ์ทางเพศของผู้หญิง

หลายคนมีคำถามในหัวมากมายเกี่ยวกับเรื่องการใช้ยาเสริมสมรรถภาพทางเพศอย่าง ไวอากร้า เพราะอยากรู้ว่าตัวเองเหมาะกับยาชนิดไหน จะได้ตัดสินใจซื้อได้ถูกต้อง บทความนี้ช่วยคุณได้
ภาวะหย่อนสมรรถภาพหรือที่เรียกทางการแพทย์ว่า ED เป็นภาวะที่อวัยวะเพศนั้นไม่สามารถที่จะแข็งตัวได้ในขณะที่กำลังมีกิจกรรมบนเตียง ส่งผลให้เหล่านักรบชายตั้งคำถาม ในยาแต่ละตัวต่างกันยังไง ผลที่ได้ออกฤทธิ์เหมือนกันหรือไม่ วันนี้ทีมงาน Viagra4thai จะมาไขข้อสงสัยคำถามเหล่านี้ให้เหล่านักรบได้ทราบกัน
ต้องอธิบายก่อนว่า ยาเหล่านี้จริง ๆ แล้วสรรพคุณของมันคือ รักษาภาวะ Erectile dysfunction ( ED ) หรือ ภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว ซึ่งยาที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา ( อย. ) มี 3 ชนิดได้แก่
จากข้อมูลทางการแพทย์มีการแนะนำ และชี้แจงอย่างเป็นทางการว่า ควรที่จะได้รับการปรึกษาจากแพทย์ก่อนใกล้ชิด ไม่ควรที่จะซื้อหรือหามาใช้เอง คุณสามารถปรึกษาแพทย์ได้เลย เนื่องจากในผู้ใช้แต่ละคนนั้นมีภาวะต้านทานของตัวยาที่ไม่เท่ากันจึงไม่สามารถบอกได้ชี้ชัดว่ายานั้น จะได้ผลกับผู้ใช้ได้อย่าง 100%
ยาทั้ง 3 ชนิด ที่กล่าวไปข้างต้น เป็นยาที่จัดอยู่ในตะกูลเดียวกันยาทั้ง 3 ตัว โดยฤทธิ์สรรพคุณคือ จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของ Penile-specific phosphodiesterase type 5 ( PDE-5 ) ทำให้เพิ่มสารที่ชื่อ Nitric oxide-cyclic ( GMP ) ส่งผลทำให้เส้นเลือดขยาย และกล้ามเนื้อของอวัยวะเพศชายขยายตัว
ซึ่งยาดังกล่าวใช้ได้ผลดี และออกฤทธิ์ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวจนใช้งานได้ ร้อยละ 50-90 แล้ว แต่จะศึกษาวิจัยในคนกลุ่มไหน เช่น ในกลุ่มคนที่เป็นโรคเบาหวาน อาจจะได้ผลดี เพียงร้อยละ 50-60 ขณะที่กลุ่มคนที่ไม่มีโรค ได้ผลดีร้อยละ 90
ไวอากร้า ( Viagra ) ได้ผ่านการรับรองอย่างแพร่หลาย มายาวนานกว่า 20 ปี โดย อย. ของอเมริกา รับรอง ตั้งแต่ปี 1998 จึงได้เปรียบ และมีข้อมูลการใช้ยามากกว่า 2 ชนิดที่อ้างอิง Levitra และ Cialis ซึ่งรับรอง ( ตั้งแต่ปี 2003 ) หรือราว ๆ 11 ปี โดยยาทั้ง 3 ตัว มีข้อดีกว่ายาฉีด ซึ่งฉีดปุ๊บอวัยวะเพศจะแข็งปั๊บ ต้องมีการกระตุ้นทางเพศจึงจะมีการแข็งตัว โดยรายละเอียดอาจจะต่างกันบ้าง เช่น
ยา 3 ชนิด ที่กล่าวไว้ มีฤทธิ์การขยายเส้นเลือด ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะส่งผลให้เกิดอาการปวดหัว หน้าแดง ท้องอืด คลื่นไส้ คัดจมูก และอาจจะสงผลไปถึงการมองเห็นภาพเสื่อมลงหลังจากได้รับยา ไวอากร้า ( Viagra ) เป็นไปได้ว่าเกิดจากขาดเลือดไปเลี้ยงที่ประสาทตา ( Optic nerve ) ในขณะที่อีก 2 ชนิดยังไม่มีผลกระทบให้เห็น